OLYMPUS E 410 มี LIVE VIEW มองภาพก่อนถ่ายได้ ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล จอ LCD 2.5 นิ้ว ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ เลนส์ มุมกว้าง 14-42 มม
โดย JIMME ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 17 ก.ย. 2554.
ขายกล้อง OLYMPUS E 410 กล้อง 10 ล้านพิกเซล ที่คุ้มราคามากที่สุด พร้อมเลนส์ 14-45 กล้องตัวนี้ สามารถมองภาพก่อนถ่ายได้ แบบ LIVE VIEW มีระบบกำจัดฝุ่นที่เซ็นเซอร์ ถ้าเที่ยบกันแล้ว ถ้าเป็น CANON ก็ต้องรุ่น 1000 D หรือ NIKON ก็ D 60 ถ้าจะมองภาพแบบ LIVE
VIEW ได้ ซึ่งแน่นอนต้องจ่ายกัน 10000 บาทแน่นอน แถม OLYMPUS E 410 ยังมีโปรแกรมถ่ายภาพสำเร็จรูป เพิ่มมาให้เลือกเล่นได้อีก กล้องสภาพสวย มีกระเป๋า พร้อมอุปกรณ์ นอกจากหน้าตาที่สวยงามแล้ว E-410 ยังมีเมนูบนหน้าจอ LCD ที่ทำงานได้ดีเยี่ยม มันไม่เพียงแต่แสดง
ค่าที่ตั้งไว้ในขณะนั้น แต่มันยังให้คุณเลือกและปรับเปลี่ยนค่าได้โดยตรง ทำให้สะดวกในการใช้งาน ภายในตัวกล้องเองนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอีกไม่น้อย ที่ชัดเจนที่สุดคือการทำงานแบบ Live View ที่คุณสามารถเลือกมองภาพผ่านจอ LCD ก่อนถ่ายได้โดยไม่ต้องมองผ่านช่องมองภาพ
อย่างเช่นเคย ฟังก์ชัน Live View Olympus บุกเบิกฟังก์ชันการทำงานแบบ Live View เป็นครั้งแรกด้วยกล้องรุ่น E-330 ที่มีรูปลักษณ์ที่ยังไม่ค่อยลงตัวและใช้งานค่อนข้างยาก (ปัจจุบันเลิกผลิตไปแล้ว) โดยจะมีการใช้เซ็นเซอร์ ตัวที่สองสำหรับการมองภาพ ส่วน E-410 นั้นเลิกใช้ระบบนี้ไป
โดยหันมาใช้วิธีการยกกระจกสะท้อนภาพขึ้น เปิดม่านชัตเตอร์ และส่งภาพจากเซ็นเซอร์ไปยังจอ LCD โดยตรง ข้อเสีย ของการทำงานแบบนี้มีอยู่บ้าง ข้อแรกคือโอกาสที่ฝุ่นในกล้องจะเข้าไปเกาะ บนตัวเซ็นเซอร์จะมีมากกว่าปกติ อย่างไรก็ดี Olympus เป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มใช้ระบบป้องกัน
ฝุ่นจับ และ E-410 มี SuperSonic Wave Filter ที่จะทำให้ตัวเซ็นเซอร์สั่นและสะบัดฝุ่นที่เกาะอยู่ออก ทุกครั้งที่กล้องเปิดทำงาน เราพอใจมากที่ภาพถ่ายที่เราทดสอบไม่มีร่องรอยของฝุ่นให้เห็น แม้แต่น้อย ข้อเสียอย่างที่สองคือ Live View ทำให้การทำงานอย่างอื่นช้าลง การถ่ายใน
โหมด Live View ทำให้ตัวกระจกสะท้อนแสงต้องมีการพลิกตัวไปมา อย่างแรกแผ่นกระจกสะท้อนภาพจะกระดกขึ้น เพื่อเข้าสู่การทำงานแบบ Live View มันจะกระดกลงเมื่อคุณกดชัตเตอร์เพื่อโฟกัส (ในกรณีที่เซ็นเซอร์ AF อยู่ในกระจกห้าด้าน-Pentaprism) จากนั้นก็จะเปิดขึ้น
ลงอีกระหว่างรับแสง เช่นเดียวกับกล้อง SLR ทั่วไป และสุดท้ายกระจกก็จะกระดกขึ้นอีกหลังจากถ่ายเสร็จเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับถ่ายในโหมด Live View ต่อไป อาจฟังดูแย่กว่าความเป็นจริง แต่การทำงานในโหมด Live View ของ E-410 ไม่เหมาะ กับเวลาที่คุณกำลังรีบร้อน แต่ในขณะ
เดียวกันมันจะช่วยให้คุณประเมินสภาพแสงได้แม่นยำ ขึ้นด้วยการแสดงค่าฮิสโตแกรมและให้คุณปรับชดเชยแสงได้ทันที ในกล้องแบบ SLR ทั่วไป นั้นคุณต้องถ่ายก่อนแล้วจึงมาตรวจดูอิสโตแกรม หลังจากนั้นจึงถ่ายใหม่ถ้าจำเป็น นอกจากนั้น Live View ยังขยายได้ถึง 7 หรือ 10 เท่า
ซึ่งเหมาะมากสำหรับการโฟกัสแบบแมนวลสำหรับ ถ่ายแบบมาโคร และภาพบุคคลที่ต้องการความแม่นยำ คุณภาพของรูปถ่าย E-410 ใช้ระบบประมวลภาพชนิดใหม่ เราสังเกตเห็นว่า E-400 ตัวเก่าขาดความ ‘คม’ อย่างกล้อง SLR 10 ล้านพิกเซลตัวอื่นๆ และมีสัญญาณรบกวนที่ ISO สูง
ส่วน E-410 นั้นดูเหมือนจะมีความ แตกต่างที่ชัดเจน (แต่อย่าลืมว่า E-400 ที่เราทดสอบเป็นตัวทดลองก่อนผลิตขายจริง) เราไม่เห็น ความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างกล้องตัวนี้กับ D40x และ EOS 400D ที่ ISO ต่ำนั้นไม่มีสัญญาณ รบกวนซึ่งเป็นไปอย่างที่เราคาดไว้ และที่ ISO สูง
คุณภาพจัดว่าดี จะเริ่มเห็นคุณภาพที่ลดลง บ้างเมื่อถ่ายที่ ISO 800 ถึง 1600 แต่คู่แข่งระดับ 10 ล้านพิกเซลตัวอื่นของ E-410 ก็ประสบปัญหา เรื่องสัญญาณรบกวนที่ ISO สูงๆ เช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบในระดับพิกเซลต่อพิกเซลแล้วจึงจะเห็นความต่างของกล้องแต่ละตัว การถ่ายทอด
สีสัน คอนทราสต์และความอิ่มของสีนั้น E-410 ทำได้ยอดเยี่ยม ระบบวัดแสงของกล้อง ทำงานได้ดี ให้ความเที่ยงตรงที่คุณสามารถควบคุมได้ดั่งใจ ระบบวัดแสงแบบ muti-pattern อาจจะก่อให้เกิดไฮไลต์ที่สว่างไปบ้างในบางครั้งแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ถ่ายทอด ออกมาโอ
เว่อร์เกินไป เวลาที่มีแสงสว่างในฉากหลังและไม่ให้สีที่ดูหม่นหรืออึมครึมในสภาพ แสงที่สว่างและมีคอนทราสต์สูง นอกจากฟังก์ชัน Live View กับระบบวัดแสงแบบหนักกลางและเฉพาะจุดแล้ว ยังมีระบบวัดแสงแบบ ‘shadow’ และ ‘highlight’ ซึ่งจะปรับสภาพแสงของภาพในบริเวณที่มืด
และที่สว่างให้เหมาะสมอีกด้วย แป้นปรับโหมด แป้นปรับโหมดค่อนข้างแข็ง แต่ช่วยไม่ให้คุณปรับพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ E-410 มีโหมด scene ให้เลือก 20 โหมด และระบบวัดแสงที่ทำงานได้สลับซับซ้อนอีกด้วย จอ LCD 2.5 นิ้ว จอ LCD มีขนาดใหญ่ ชัดเจน มีประโยชน์ในการทำงาน
หลายอย่าง ซึ่งได้แก่การทำงานของฟังก์ชัน Live View นอกจากนั้นยังเป็นตัวควบคุมคำสั่งในการทำงานของกล้องด้วยเช่นกัน เลนส์คิท 14-42 มม. ทั้งเลนส์คิท 14-42 มม. และเลนส์ซูม 40-150 ที่สามารถซื้อเพิ่มได้นั้นน่าใช้ และมีขนาดกะทัดรัด มาก มันทำให้เลนส์ของ Canon และ
Nikon ดูเทอะทะไปเลย สีเหลื่อม มีสีเหลื่อมแบบ chromatic aberration ให้เห็นบ้างจากเลนส์คิท 14-42 มม. แต่ไม่มากเท่าใด ส่วนสีเพี้ยนชนิดอื่นนั้นต่ำกว่าปกติมาก การเปิดรับแสง ระบบวัดแสงแบบ multi-pattern เชื่อถือได้แม้ในสภาพแสงที่มีคอนทราสต์สูง บริเวณที่มีทั้ง แสงสว่างและ
เงามืดนั้นกล้องสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี รายละเอียด มันยากที่จะเห็นความแตกต่างในรายละเอียดของเซ็นเซอร์แบบ Four Thirds ของ Olympus กับเซ็นเซอร์ 10 ล้านพิกเซลในกล้อง SLR ของผู้ผลิตรายอื่น ในขณะที่ระบบวัดแสงทำงานได้สลับซับซ้อนแต่ระบบออโต้โฟกัสนั้นทำงาน
เรียบง่าย E-410 มีจุดโฟกัสเพียงสามจุดซึ่งเรียงตามแนวนอนบนหน้าจอน้อยไปหรือเปล่า? เราพนันได้เลยว่า คุณจะเสียเวลากับระบบโฟกัสหลายจุดในกล้องตัวอื่นมากกว่าที่คุณใช้ในการปรับตัวให้คุ้นเคยกับ ความเรียบง่ายของระบบโฟกัสแบบสามจุดอันเรียบง่ายของกล้องตัวนี้ E-410
ทำงานได้ค่อนข้างรวดเร็วในเรื่องการประมวลภาพอีกด้วย หรืออย่างน้อยก็เร็วกว่า กล้องรุ่นก่อนหน้ามันอีกหลายตัว มันสามารถถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ได้ที่ความเร็ว 3fps ก่อนที่ บัฟเฟอร์จะเต็ม ส่วนโหมด HQ นั้นสามารถถ่ายได้ที่ความเร็วเท่ากันจนกว่าการ์ดความจำจะเต็ม
ราคา: | 8,500 บาท | ต้องการ: | ขาย |
ติดต่อ: | JIMME | อีเมล์: | |
สภาพ: | มือสอง
| จังหวัด: | กรุงเทพมหานคร |
| | | |
โทรศัพย์: | 0854432581 | IP Address: | 124.121.208.xx |
มือถือ: | - | |
ที่อยู่: | BANGKOK |
|
ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)
หน้า แสดง - จากทั้งหมด 6950 ประกาศ
|
|
|
2,800 บาท |
|
|
|
|
|
|
|
7,500 |
|
|
|
14,900 |
|
|
|
4,000 |
|
|
|
1,500 |
|
|
|
ทุกราคา |
|
|
|
250 บาท |
|
|
|
22,000 |
|
|
|
7,500 |
|
|
|
50 บาท |
|
|
|
1,900 บาท |
|
|
|
20,500 |
|
|
|
190 บาท |
|
|
|
5,300 บาท |
|
|
|
10,500 |
|
|
|
30,000 |
|
|
|
10,000 |
|
|
|
6,000 บาท |
|
|
|
10,500 บาท |